WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ตร.เฝ้าจับ 199 แยกถนนทั่วไทย ลุยนโยบาย 5 จอม ž- เริ่ม 16 ก.ค. จับจริง 17 ก.ค.




      ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) ควบคุมงานจราจร พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. พร้อมรอง ผบช. ภ.1-9 ดูแลงานจราจร รอง ผบก. ผกก. รอง ผกก. และ สว.จร. ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ตามนโยบาย "ปฏิบัติการจับจริงผู้มีพฤตินิสัยในการทำผิดกฎหมายจราจรเป็นประจำ (199 แยกทั่วประเทศไทย) หรือเรียกว่าจับจริง 5 จอม

      จากนั้น พล.ต.อ.วุฒิแถลงเปิดนโยบาย 5 จริง ร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง โดยมี พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ มาร่วมด้วย พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำนโยบาย 5 จริง (จับจริง ยกจริง ล็อกจริง ขังจริง สุภาพจริง) ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นส่วนที่รถจอดกีดขวางการจราจรในเส้นทางที่ไม่อนุญาต ส่วนที่ประชุมเป็นเรื่องรถที่มีการวิ่งและทำผิดกฎจราจร หรือ 5 จอม คือ 1.จอมปาด (ข้อหาขัดปาดแซงเส้นทึบ) 2.จอมล้ำ (ข้อหาหยุดรถล้ำเส้นหยุด) 3.จอมขวาง (ข้อหาหยุดรถขวางทางแยก) 4.จอมย้อน (ข้อหาขับย้อนศร) และ 5.จอมปลอม (ทะเบียน) (ข้อหาป้ายทะเบียนปลอม) โดยวันที่ 16 กรกฎาคม จะเริ่มประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถทราบว่าตำรวจจริงจังในการจับกุม หลังจากนโยบาย 5 จริงใช้มาก่อนหน้านี้และได้ผล จะทำควบคู่กันไป โดยวันที่ 17 กรกฎาคม จะเริ่มจับจริง 

      พล.ต.อ.วุฒิกล่าวต่อว่า มีการพิจารณา 199 แยกทั่วประเทศไทย แบ่งเป็น กทม. 90 แยก ต่างจังหวัด 109 แยกนั้น เพราะตำรวจไม่มีกำลังมากที่จะไปดูทุกจุด ตรวจสอบแล้วเป็นแยกสำคัญที่ต้องดำเนินการก่อน คาดว่าจะทำให้การคล่องตัวของรถบนถนนเฉลี่ยลดลงได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า วันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. บช.น.จะประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยจำนวน 199 ทางแยกนั้น มีของ บช.น. 90 ทางแยก ส่วนที่เหลือเป็นของภูธร ในส่วนของ บช.น.จะรายงานผลผ่านทางเว็บไซต์http://tiny.cc/5jom เพื่อให้ตรวจสอบได้อย่างเป็นรูปธรรม

พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความเครียด เห็นคนอื่นขับรถไม่มีวินัยทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คิดว่าหากคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ น่าเป็นห่วงอย่างมาก หากขับรถผิดกฎหมาย ผู้โดยสารที่มาด้วยเช่นเด็กก็จะเห็นก็อาจทำตาม แต่หากเราขับตามกฎระเบียบ จะทำให้คนอื่นทำตาม เมื่อทำได้ความเครียดก็ลดน้อยลง การจราจรก็จะคลี่คลายขึ้น

     นพ.แท้จริงกล่าวว่า เพื่อนของตนที่มาจากต่างประเทศบอกว่าประเทศไทยมีอิสรเสรีภาพมากที่สุดในการขับรถ อยากทำอะไรก็ทำ ให้ดูที่วินัยบนท้องถนน หากวินัยจราจรดีประเทศเจริญ หากวินัยไม่ดีประเทศก็ไม่เจริญ โดยเฉพาะเรื่องหมวกกันน็อก มีคนใช้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ และเด็กที่ซ้อนหรือโดยสารมีใช้เพียง 7 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีคนตายปีละประมาณ 1 หมื่นราย หากทุกคนสวมหมวก 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะลดการสูญเสียได้ถึง 1 หมื่นคนต่อปีเช่นกัน

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!